สางนางพญาสาป

การที่เราคิดในแง่ร้ายซ้ำๆ ก็เหมือนเป็นการสาปแช่งตัวเราเอง เมื่อเราคิดแต่อยากได้ของที่เราไม่มี เห็นคนอื่นมีชีวิตที่ดีกว่าก็อยากได้อย่างเขาโดยที่ลืมนึกถึงสิ่งที่เรามี เราจะมองข้ามสิ่งดีๆ ที่เรามีไป แล้วโฟกัสกับสิ่งที่เราไม่มี ในทางกลับกัน ให้เราลองเปลี่ยนความคิดใหม่ หันมาโฟกัสในสิ่งที่เรามี แล้วค่อยๆ สร้างสิ่งที่เราต้องการขึ้นมาใหม่ แล้วเราจะพบว่าความคิดในแง่ดีจะนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต

จิตใต้สำนึกแห่งการคิดเชิงลบ

จิตใต้สำนึกของคนเราถูกหล่อหลอมมาจากประสบการณ์ในอดีต ประสบการณ์เหล่านี้จะถูกบันทึกไว้ในสมองของเรา และจะถูกนำกลับมาใช้เมื่อเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน หากประสบการณ์ในอดีตของเราเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดี เช่น เราเคยถูกทำร้าย ถูกทอดทิ้ง หรือถูกหักอก เราก็อาจจะจดจำประสบการณ์เหล่านี้ไว้ในจิตใต้สำนึกของเรา และเมื่อเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เราก็อาจจะตอบสนองด้วยความคิดและอารมณ์ในแง่ลบโดยอัตโนมัติ

ความคิดในแง่ลบเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราได้หลายด้าน เช่น ทำให้เรารู้สึกหดหู่ ท้อแท้ สิ้นหวัง หรือวิตกกังวล ความคิดในแง่ลบยังสามารถทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายขึ้น และทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตได้

พลังแห่งความคิดบวก

ในทางกลับกัน ความคิดในแง่บวกสามารถนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของเราได้มากมาย ความคิดในแง่บวกสามารถช่วยให้เรารู้สึกมีความสุข มีความหวัง และมีแรงบันดาลใจ ความคิดในแง่บวกยังสามารถช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น และทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากขึ้น

มีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความคิดบวก เช่น งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร "Journal of Positive Psychology" พบว่า คนที่คิดในแง่บวกมีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพดี มีความสุข และมีอายุยืนยาวกว่าคนที่คิดในแง่ลบ

อีกงานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร "Psychological Science" พบว่า คนที่คิดในแง่บวกมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและการเงินมากกว่าคนที่คิดในแง่ลบ

วิธีคิดในแง่บวก

หากคุณต้องการคิดในแง่บวกมากขึ้น คุณสามารถทำได้โดยการฝึกฝนเทคนิคต่อไปนี้

• ท้าทายความคิดในแง่ลบของคุณ: เมื่อคุณพบว่าตัวเองกำลังคิดในแง่ลบ ให้พยายามท้าทายความคิดเหล่านั้น หาหลักฐานมาหักล้างความคิดเหล่านั้น และพยายามมองหาแง่มุมที่ดีของสถานการณ์แทน
• โฟกัสกับสิ่งดีๆ ในชีวิต: ทุกๆ วัน ให้พยายามโฟกัสกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการได้กินอาหารอร่อย หรือเรื่องใหญ่ๆ อย่างการได้เลื่อนตำแหน่ง การโฟกัสกับสิ่งดีๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุขและมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
• ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่คิดบวก: คนที่เราอยู่ด้วยมีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดและอารมณ์ของเรา หากคุณต้องการคิดในแง่บวกมากขึ้น ให้พยายามล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่คิดบวก คนที่ให้กำลังใจ และคนที่ทำให้คุณรู้สึกดี

สรุป

ความคิดในแง่บวกสามารถนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของคุณได้มากมาย ในทางกลับกัน ความคิดในแง่ลบก็สามารถทำลายชีวิตของคุณได้ หากคุณต้องการมีชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ ให้พยายามคิดในแง่บวกมากขึ้น และฝึกฝนเทคนิคที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อเปลี่ยนความคิดของคุณ

ตารางที่ 1: ผลกระทบของความคิดในแง่บวกและแง่ลบ

ตารางที่ 2: เทคนิคคิดในแง่บวก

ตารางที่ 3: ตัวอย่างความคิดในแง่บวกและแง่ลบ

เคล็ดลับและเทคนิค

• ฝึกเขียนบันทึกความคิดบวก: ทุกๆ วัน ให้เขียนบันทึกความคิดบวกของคุณลงในสมุดบันทึก อาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการได้กินอาหารอร่อย หรือเรื่องใหญ่ๆ อย่างการได้เลื่อนตำแหน่ง การเขียนบันทึกความคิดบวกจะช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งดีๆ ในชีวิต และช่วยให้คุณคิดในแง่บวกมากขึ้น
• ใช้คำพูดในแง่บวก: คำพูดที่เราใช้ส่งผลอย่างมากต่อความคิดและอารมณ์ของเรา ให้พยายามใช้คำพูดในแง่บวกในการพูดคุยกับตัวเองและกับผู้อื่น เช่น แทนที่จะพูดว่า "ฉันทำไม่ได้" ให้พูดว่า "ฉันจะพยายามทำ"
• มองหาเรื่องตลกในสถานการณ์ต่างๆ: แม้ว่าชีวิตจะยากลำบาก แต่ก็ยังมีเรื่องตลกซ่อนอยู่เสมอ ให้พยายามมองหาเรื่องตลกในสถานการณ์ต่างๆ และหัวเราะให้กับตัวเองบ้าง การหัวเราะจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและมองโลกในแง่ดีมากขึ้น

เรื่องราวที่ให้แง่คิด

เรื่องที่ 1:

ครั้งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งที่รู้สึกหดหู่และสิ้นหวัง เขาคิดว่าชีวิตของเขาไม่มีอะไรดีเลย เขาไม่มีงาน ไม่มีเงิน และไม่มีเพื่อน เขาคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่เขาจะลงมือฆ่าตัวตาย เขาตัดสินใจไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ

ขณะที่เขากำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะ เขาเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งเล่นอยู่กับลูกสุนัข เด็กผู้หญิงคนนั้นดูมีความสุขมาก และลูกสุนัขก็ดูน่ารักมาก ชายคนนั้นมองดูเด็กผู้หญิงและลูกสุนัขด้วยความอิจฉา เขาคิดว่าถ้าเขามีชีวิตที่มีความสุขเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนนั้นก็คงจะดี

ทันใดนั้น ชายคนนั้นก็มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนม้านั่ง เธอมีใบหน้าที่เศร้าหมอง และในมือของเธอก็ถือรูปถ่ายของชายหนุ่มคนหนึ่ง ชายคนนั้นสังเกตเห็นว่ารูปถ่ายใบนั้นเป็นรูปของเขาเอง

ชายคนนั้นเดินเข้าไปหาหญิงสาวและถามว่าเธอเป็นใคร หญิงสาวบอกว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ชายคนนั้นตกใจมาก