สละ ตะลุยโลกอาหารอันล้ำค่า
คำนำ
ปลาสละ เป็นปลาทะเลน้ำลึกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยรสชาติที่อร่อยแปลกใหม่ จึงถูกนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ตั้งแต่แกงส้ม ต้มยำ ไปจนถึงทำเป็นปลาเค็มหรือปลาแห้งได้อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า ปลาสละไม่ได้มีดีแค่รสชาติแสนอร่อย แต่ยังมีประโยชน์มากมายซ่อนอยู่ภายใน
คุณค่าทางอาหารและสารอาหารที่มีประโยชน์
ปลาสละนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ได้แก่
- โปรตีน: ปลาสละเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีโปรตีนสูงถึง 22 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
- ไขมันโอเมก้า 3: ปลาสละอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- วิตามินดี: ปลาสละเป็นแหล่งวิตามินดีชั้นดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- วิตามินบี 12: ปลาสละอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ช่วยบำรุงระบบประสาทและสร้างเม็ดเลือดแดง
- แร่ธาตุต่างๆ: ปลาสละยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยบำรุงร่างกายและป้องกันโรคต่างๆ
ประโยชน์ของปลาสละ
ด้วยสารอาหารที่มากมายมหาศาล ปลาสละจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
-
บำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาสละช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
-
บำรุงระบบประสาท: วิตามินบี 12 ในปลาสละช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
-
บำรุงกระดูกและฟัน: วิตามินดีในปลาสละช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
-
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ปลาสละมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่างๆ
-
ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง: มีการศึกษาพบว่า ปลาสละมีสารต้านมะเร็งหลายชนิด ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด
โต๊ะที่ 1: เปรียบเทียบคุณค่าทางอาหารของปลาสละกับปลาชนิดอื่น
สารอาหาร |
ปลาสละ |
ปลาทูน่า |
ปลาแซลมอน |
โปรตีน (กรัมต่อ 100 กรัม) |
22 |
23 |
24 |
ไขมันโอเมก้า 3 (มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) |
1,200 |
1,500 |
2,000 |
วิตามินดี (หน่วยสากลต่อ 100 กรัม) |
100 |
150 |
200 |
วิตามินบี 12 (ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม) |
2.5 |
3.0 |
4.0 |
เคล็ดลับการเลือกและบริโภคปลาสละ
-
เลือกปลาสละสด: ให้สังเกตเหงือกและตาของปลา ต้องใสและไม่ขุ่นมัว เนื้อปลาควรแน่นและยืดหยุ่น
-
ทำความสะอาดก่อนปรุง: ล้างปลาสละให้สะอาดทั้งภายในและภายนอก ก่อนนำไปปรุงอาหาร
-
หลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไป: แม้ว่าปลาสละจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือโรคไต เพราะปลาสละมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง
เรื่องราวฮาๆ จากการกินปลาสละ
-
เรื่องที่ 1: ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้ไปเที่ยวจังหวัดระนอง ได้มีโอกาสชิมแกงส้มปลาสละเป็นครั้งแรก รสชาติแปลกแปลกดี แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ ข้าพเจ้าตักกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเผลอทำก้างปลาติดคอไปโดยไม่รู้ตัว ตอนนั้นพยายามไอเท่าไหร่ก็ไม่ออกเสียที สุดท้ายต้องรีบไปโรงพยาบาลให้คุณหมอช่วยเอาออก จึงรู้ซึ้งว่า เวลากินของอร่อย ต้องกินอย่างมีสติ
-
เรื่องที่ 2: อีกครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ได้ไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร้านอาหารริมทะเล เพื่อนข้าพเจ้าสั่งปลาสละทอดมากิน จู่ๆ เพื่อนก็หยุดเคี้ยว และล้วงอะไรบางอย่างออกจากปาก แล้วโยนทิ้งลงพื้นด้วยความตกใจ จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่พื้นแล้วพูดขึ้นว่า "เฮ้ย นี่มันอะไรวะ" ข้าพเจ้ามองตามนิ้วเพื่อนไป ก็ thấy ก้างปลาใหญ่ๆ ที่เพื่อนล้วงออกมา ด้วยความตกใจ เพื่อนจึงรีบเรียกพนักงานมาถาม พนักงานบอกว่า "นี่คือก้างปลาสละครับ" เพื่อนจึงเพิ่งรู้ว่า ก้างปลาสละนั้นใหญ่จริงๆ
-
เรื่องที่ 3: วันหนึ่งข้าพเจ้าไปเที่ยวตลาดนัดแห่งหนึ่ง ได้เห็นแม่ค้าขายปลาสละเค็ม ข้าพเจ้าจึงเดินเข้าไปถามราคา แม่ค้าบอกว่า "ขายกิโลกรัมละ 300 บาทค่ะ" ข้าพเจ้าคิดในใจว่า แพงจัง แต่เห็นปลาสละตัวใหญ่ๆ แล้วก็น่ากิน ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจซื้อครึ่งกิโล พอกลับถึงบ้าน ข้าพเจ้าก็เริ่มทำปลาสละเค็มกินทันที ปรากฏว่า ปลาสละเค็มรสชาติอร่อยมาก แต่กินไปได้ครึ่งตัวก็รู้สึกเค็มจนกินไม่ไหว ต้องรีบไปหาน้ำเปล่ามาดื่ม พอเช็กที่ฉลากข้างถุง ปรากฏว่า ปลาสละเค็มที่ข้าพเจ้าซื้อมานั้น มีปริมาณโซเดียมสูงถึง 1,500 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกินแล้วเค็มขนาดนี้
วิธีทำปลาสละแดดเดียวแบบง่ายๆ
- เตรียมปลาสละโดยล้างให้สะอาดทั้งภายในและภายนอก
- ผ่าปลาสละออกเป็นสองส่วนตามแนวสันหลัง
- โรยเกลือป่นให้ทั่วทั้งสองด้านของปลา แล้วนำไปตากแดดเป็นเวลา 1-2 วัน
- เมื่อปลาสละแห้งได้ที่แล้ว ก็สามารถนำมากินได้ทันที หรือจะนำไปทอดก่อนกินก็ได้
ข้อดีและข้อเสียของการกินปลาสละ
ข้อดี:
- อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยบำรุงระบบประสาท
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
ข้อเสีย:
- มีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง
- อาจมีก้างปลาที่ใหญ่
- ราคาค่อนข้างแพง
สรุป
ปลาสละเป็นปลาที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี การบริโภคปลาสละเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายได้อย่างหลาก