การโดนใบสั่งความเร็ว ไม่จ่าย 2566: อย่าละเลยเพราะอาจส่งผลร้ายแรง

การโดนใบสั่งความเร็วอาจเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องตระหนักถึงผลกระทบที่ตามมาหากไม่ได้รับการชำระ หากคุณโดนใบสั่งความเร็วแล้วไม่จ่าย อาจส่งผลให้ค่าปรับเพิ่มขึ้น ค่าติดตามหนี้สิน และในบางกรณีคือการจำคุก

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในปี 2563 มีผู้กระทำความผิดมากกว่า 1 ล้านรายที่ไม่ยอมชำระค่าปรับสำหรับใบสั่งความเร็ว ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบต่างๆ ดังนี้:

• ค่าปรับเพิ่มขึ้น: ค่าปรับสำหรับการทำผิดกฎหมายจราจรจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการชำระ โดยค่าปรับจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุก 30 วันที่ล่าช้า
• ค่าติดตามหนี้สิน: ผู้ที่ไม่ยอมชำระค่าปรับอาจถูกเรียกเก็บค่าติดตามหนี้สิน ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการส่งหนังสือเตือน ค่าวางบิล และค่านายบังคับคดี
• การจำคุก: ในบางกรณี ผู้ที่ไม่ยอมชำระค่าปรับสำหรับใบสั่งความเร็วอาจถูกจำคุกเป็นเวลาสูงสุด 1 ปี

ขั้นตอนที่ควรทำเมื่อโดนใบสั่งความเร็ว

เมื่อคุณโดนใบสั่งความเร็ว สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการต่อไปนี้:

• ยอมรับความผิด: หากคุณละเมิดกฎหมายจราจร ควรยอมรับความผิดและชำระค่าปรับ
• โต้แย้งใบสั่ง: หากคุณเชื่อว่าถูกออกใบสั่งผิด คุณสามารถโต้แย้งได้โดยยื่นคำร้องต่อศาลจราจร
• ติดต่อศูนย์บริการใบสั่งจราจร: หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการชำระค่าปรับ คุณสามารถติดต่อศูนย์บริการใบสั่งจราจรได้ที่หมายเลข 1195
• ชำระค่าปรับทางออนไลน์: คุณสามารถชำระค่าปรับสำหรับใบสั่งความเร็วได้ทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก (https://www.dlt.go.th/)

ประโยชน์ของการชำระค่าปรับตรงเวลา

การชำระค่าปรับสำหรับใบสั่งความเร็วตรงเวลาไม่เพียงแค่หลีกเลี่ยงค่าปรับที่เพิ่มขึ้นและค่าติดตามหนี้สินเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ ด้วย ได้แก่:

• รักษาประวัติการขับขี่ที่สะอาด: การชำระค่าปรับตรงเวลาจะช่วยรักษาประวัติการขับขี่ของคุณที่สะอาด และหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัย
• หลีกเลี่ยงการพักหรือเพิกถอนใบขับขี่: การก่อหนี้ค่าปรับใบสั่งจราจรอาจนำไปสู่การพักหรือเพิกถอนใบขับขี่ได้
• หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย: หากคุณไม่ชำระค่าปรับสำหรับใบสั่งความเร็ว คุณอาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องเสียค่าปรับที่สูงขึ้นและโทษอื่นๆ

เคล็ดลับและเทคนิค

มีเคล็ดลับและเทคนิคบางประการที่สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการละเลยใบสั่งความเร็ว ได้แก่:

• ตั้งการเตือน: ตั้งการเตือนไว้ล่วงหน้าเพื่อชำระค่าปรับ
• ใช้แอปติดตามใบสั่งจราจร: ใช้แอปติดตามใบสั่งจราจรเพื่อรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับใบสั่งความเร็วที่คุณได้รับ
• ตรวจสอบประวัติการขับขี่ของคุณเป็นประจำ: ตรวจสอบประวัติการขับขี่ของคุณในเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อดูว่ามีใบสั่งความเร็วที่ไม่ได้รับการชำระหรือไม่
• แจ้งที่อยู่ปัจจุบันของคุณ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากรมการขนส่งทางบกมีที่อยู่ปัจจุบันของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับใบสั่งความเร็วทั้งหมด

เรื่องราวที่น่าสนใจ

• ชายคนหนึ่งถูกจับได้ว่าขับรถเร็วเกินกำหนดถึง 40 กม./ชม. แต่เขาปฏิเสธที่จะชำระค่าปรับ เมื่อถูกพาตัวขึ้นศาล เขาก็เถียงว่าเขาไม่สามารถจ่ายได้ แต่ผู้พิพากษากลับพบว่าเขาจ่ายเงินให้กับรถใหม่ได้ ดังนั้นจึงสั่งให้เขาจ่ายค่าปรับและดำเนินคดีทางอาญา
• หญิงคนหนึ่งโดนใบสั่งความเร็ว แต่เธอลืมจ่ายไป เธอได้รับจดหมายติดตามหนี้สินหลายครั้ง แต่เธอไม่สนใจ เมื่อเธอถูกตำรวจจราจรจับ เธอจึงถูกนำตัวไปโรงพักและถูกปรับเพิ่มขึ้นสองเท่า
• ชายคนหนึ่งโดนใบสั่งความเร็วและคิดว่าสามารถหนีการชำระได้ เขาจึงย้ายไปอยู่เมืองอื่น แต่ตำรวจติดตามตัวเขาได้และนำเขาไปขึ้นศาล เขาถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับทั้งหมด 5 เท่า

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง

มีข้อผิดพลาดทั่วไปบางประการที่ผู้คนทำเมื่อได้รับใบสั่งความเร็ว ได้แก่:

• ละเลยใบสั่ง: ห้ามละเลยใบสั่งความเร็ว หากคุณไม่ได้รับการชำระ อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของค่าปรับและโทษอื่นๆ
• คิดว่าใบสั่งจะหายไป: ใบสั่งความเร็วจะไม่หายไปแม้ว่าคุณจะไม่ชำระ หากไม่ได้รับการชำระ ใบสั่งจะยังคงมีอยู่และอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
• เชื่อว่าคุณไม่สามารถจ่ายได้: หากคุณไม่สามารถจ่ายค่าปรับทั้งหมดได้ คุณสามารถติดต่อศูนย์บริการใบสั่งจราจรเพื่อจัดทำแผนการชำระเงิน

สรุป

การไม่จ่ายค่าปรับสำหรับใบสั่งความเร็วอาจส่งผลร้ายแรงตามมา ซึ่งรวมถึงค่าปรับที่เพิ่มขึ้น ค่าติดตามหนี้สิน และการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หากคุณโดนใบสั่งความเร็ว โปรดชำระค่าปรับตรงเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้