Position:home  

สมเด็จวัดระฆัง 100 ปี มรดกอันล้ำค่าแห่งแผ่นดิน

คำนำ

ในปี พ.ศ. 2564 นี้ นับเป็นวาระครบรอบ 100 ปีการมรณภาพของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หรือที่รู้จักกันในนาม สมเด็จวัดระฆัง พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ผู้ซึ่งได้สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดินไทยทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และสังคมไทย

ชีวประวัติสมเด็จวัดระฆัง

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ประสูติเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2331 ที่ตำบลบ้านกลาง อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี มีนามเดิมว่า โต บิดาและมารดาประกอบอาชีพทำนา

ตั้งแต่เยาว์วัย สมเด็จวัดระฆังได้แสดงให้เห็นถึงสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดและความสนใจในด้านพระพุทธศาสนา เมื่ออายุได้ 13 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดกลางบางระจัน หลังจากนั้น ได้ศึกษาวิชาต่างๆ ทั้งวิชาความรู้ทางโลกและวิชาอาคม รวมถึงวิปัสนากรรมฐาน จนมีความแตกฉานในพระธรรมและเวทมนตร์คาถาต่างๆ

สมเด็จวัดระฆัง 100 ปี

ในปี พ.ศ. 2356 สมเด็จวัดระฆังได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เมื่ออายุได้ 25 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2379 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะสามัญที่ พระธรรมกิตติ

คุณูปการของสมเด็จวัดระฆัง

ตลอดชีวิตของสมเด็จวัดระฆัง ท่านได้สร้างคุณูปการไว้ให้แก่แผ่นดินไทยมากมายหลายประการ ได้แก่

ด้านศาสนา

  • การสร้างวัดและบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม: สมเด็จวัดระฆังได้สร้างวัดขึ้น 11 วัด และบูรณะวัดต่างๆ อีกกว่า 30 วัด เพื่อเป็นสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาและให้ประชาชนได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
  • การแต่งตำราและคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา: สมเด็จวัดระฆังได้แต่งตำราและคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น คัมภีร์อิสิคังสีล, คัมภีร์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร, คัมภีร์ไตรภูมิพระร่วง เป็นต้น เพื่อเป็นหลักธรรมคำสอนให้แก่พุทธศาสนิกชน
  • การเผยแผ่พระพุทธศาสนา: สมเด็จวัดระฆังได้ออกธุดงค์ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ และได้โปรดศิษย์เอกให้เดินทางไปเผยแผ่ในต่างประเทศด้วย เช่น ประเทศลาวและกัมพูชา

ด้านการศึกษา

  • การก่อตั้งโรงเรียน: สมเด็จวัดระฆังได้ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นหลายแห่ง เช่น โรงเรียนวัดระฆังฯ, โรงเรียนวัดปากน้ำ เป็นต้น เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน
  • การแต่งตำราเรียน: สมเด็จวัดระฆังได้แต่งตำราเรียนไว้มากมาย เช่น ตำราสอนเด็ก, ตำราเรียนภาษาไทย เป็นต้น เพื่อใช้เป็นหลักสูตรในการสอนในโรงเรียนที่ท่านได้ก่อตั้งขึ้น
  • การสนับสนุนการศึกษา: สมเด็จวัดระฆังได้สนับสนุนการศึกษาในรูปแบบต่างๆ เช่น การบริจาคทุนการศึกษา, การสร้างหอสมุด และการให้การอุปถัมภ์แก่คณะครูและนักเรียนที่ยากจน

ด้านสังคม

  • การช่วยเหลือผู้ยากไร้: สมเด็จวัดระฆังได้ช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ เช่น การบริจาคข้าวของเครื่องใช้, การสร้างโรงทาน และการให้คำปรึกษาทางจิตใจ
  • การรักษาโรค: สมเด็จวัดระฆังมีชื่อเสียงในด้านการรักษาโรคต่างๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยท่านได้ใช้สมุนไพรและเวทมนตร์คาถาในการรักษาผู้ป่วย
  • การปกป้องบ้านเมือง: ในสมัยรัชกาลที่ 3 สมเด็จวัดระฆังได้ทำนายเหตุการณ์การเกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ และได้ช่วยรวบรวมและจัดหาเสบียงอาหารให้แก่กองทัพไทย เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก

มรดกอันล้ำค่า

มรดกที่สำคัญที่สุดของสมเด็จวัดระฆัง ได้แก่

  • พระเครื่องวัตถุมงคล: พระเครื่องและวัตถุมงคลที่สมเด็จวัดระฆังสร้างขึ้น ได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั่วไป และมีราคาสูง เป็นที่นิยมสะสมกันมาก
  • คำสอนทางพระพุทธศาสนา: คำสอนทางพระพุทธศาสนาของสมเด็จวัดระฆัง มีความลึกซึ้งและเป็นที่ยึดถือปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศีลธรรม, สมาธิ, ปัญญา และการพ้นทุกข์
  • โรงเรียนและวัดวาอาราม: โรงเรียนและวัดวาอารามที่สมเด็จวัดระฆังได้สร้างและบูรณะ ยังคงเป็นสถานที่สืบทอดพระพุทธศาสนาและเป็นแหล่งศึกษาเล่าเรียนที่สำคัญของประเทศไทย

ตารางที่ 1

สรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสมเด็จวัดระฆัง

รายละเอียด ข้อมูล
ชื่อเต็ม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ปีเกิด 17 เมษายน พ.ศ. 2331
ปีมรณภาพ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2464
วัดประจำ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
สมณศักดิ์สูงสุด สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นพิเศษ
จำนวนวัดที่สร้าง 11 วัด
จำนวนวัดที่บูรณะ กว่า 30 วัด
จำนวนตำราและคัมภีร์ที่แต่ง ไม่ต่ำกว่า 100 ฉบับ

ตารางที่ 2

พระเครื่องวัตถุมงคลที่สำคัญของสมเด็จวัดระฆัง

สมเด็จวัดระฆัง 100 ปี มรดกอันล้ำค่าแห่งแผ่นดิน

พระเครื่องวัตถุมงคล พุทธคุณและความนิยม
พระสมเด็จ แคล้วคลาดปลอดภัย, เมตตามหานิยม, โชคลาภ
พระนางพญา เมตตามหานิยม, โชคลาภ, การค้าขาย
พระปิดตา ป้องกันภัย, เมตตามหานิยม, โชคลาภ
พระรอด ป้องกันภัย, แคล้วคลาดปลอดภัย, โชคลาภ
พระซุ้มกอ เมตตามหานิยม, โชคลาภ, การค้าขาย

ตารางที่ 3

คำสอนสำคัญของสมเด็จวัดระฆัง

คำสอน ความหมาย
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กฎแห่งกรรม ผู้ใดทำดี ย่อมได้ดี ผู้ใดทำชั่ว ย่อมได้ชั่ว
ทุกข์มีไว้ให้ละ ทุกข์เป็นสัจธรรมของชีวิต ทุกข์มีไว้เพื่อให้เราละ ไม่ใช่เพื่อให้เรายึดติด
โลภ โกรธ หลง เป็นสามกิเลส กิเลสที่เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ และความหลง
โปรดสัตว์เพื่อโปรดตน การช่วยเหลือผ

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss