ภูมิคุ้มกันแบบรับมา (Passive Immunity) คือการถ่ายทอดแอนติบอดีจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งช่วยให้บุคคลที่ได้รับสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่บุคคลนั้นไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นเมื่อได้รับแอนติบอดีจากแม่ผ่านทางสายสะดือหรือการให้นม ซึ่งครอบคลุมถึงโรคต่างๆ เช่น หัด หัดเยอรมัน ไอกรน โปลิโอ และไวรัสซิกา
แอนติบอดีเป็นโปรตีนที่สร้างโดยระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อเชื้อโรค เมื่อแอนติบอดีพบเชื้อโรคที่เฉพาะเจาะจงแล้ว แอนติบอดีเหล่านี้จะจับตัวกับเชื้อโรคและทำลายหรือทำให้เป็นกลางโดย:
มีสองประเภทหลักของภูมิคุ้มกันแบบรับมา:
1. ภูมิคุ้มกันแบบรับมาตามธรรมชาติ: เกิดขึ้นเมื่อถ่ายทอดแอนติบอดีจากแม่ไปยังทารก ผ่านทางสายสะดือหรือการให้นม
2. ภูมิคุ้มกันแบบรับมาจากการกระทำ: เกิดขึ้นเมื่อได้รับแอนติบอดีจากการฉีดวัคซีนหรือการถ่ายเลือด
ภูมิคุ้มกันแบบรับมามีบทบาทสำคัญในการปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ โดย:
ประเภทของภูมิคุ้มกันแบบรับมา | แหล่งที่มา | ระยะเวลา |
---|---|---|
ตามธรรมชาติ | สายสะดือ, น้ำนมแม่ | 2-6 เดือน |
จากการกระทำ | วัคซีน, การถ่ายเลือด | ขึ้นอยู่กับประเภทของการติดเชื้อ |
ผสม | การถ่ายเลือดจากทารกแรกเกิดไปยังแม่ | ป้องกันโรคร้ายแรงในทารกแรกเกิด |
เรื่องที่ 1: ครอบครัวหนึ่งพบว่าลูกสาวของพวกเขากำลังป่วยด้วยโรคหัด พวกเขาจำได้ว่าลูกสาวได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดแล้ว แต่พวกเขาไม่รู้ว่าวัคซีนนั้นไม่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เต็มที่เนื่องจากลูกสาวของพวกเขาเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง บทเรียนที่ได้เรียนรู้: เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแน่ใจว่าเด็กๆ ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน
เรื่องที่ 2: ผู้ชายคนหนึ่งถูกงูกัดและได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วด้วยแอนติเวนิน (เซรุ่มที่มีแอนติบอดีต่อพิษงูกัด) ผู้ชายคนนั้นรอดชีวิตและไม่พบผลข้างเคียงจากการถ่ายเลือด บทเรียนที่ได้เรียนรู้: การถ่ายเลือดด้วยแอนติเวนินสามารถช่วยชีวิตได้หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
เรื่องที่ 3: หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคางทูมติดเชื้อไวรัสคางทูม ลูกของเธอคลอดก่อนกำหนดและป่วยด้วยโรคคางทูมที่รุนแรงมากจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล บทเรียนที่ได้เรียนรู้: เป็นเรื่องสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคางทูมเพื่อปกป้องลูกของตนเอง
ข้อดี:
ข้อเสีย:
1. ภูมิคุ้มกันแบบรับมามีอายุการใช้งานนานเท่าใด
ตอบ: ระยะเวลาของภูมิคุ้มกันแบบรับมาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของแอนติบอดี โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 2-6 เดือนสำหรับภูมิคุ้มกันแบบรับมาตามธรรมชาติ และอาจมีอายุการใช้งานนานหลายปีสำหรับภูมิคุ้มกันแบบรับมาจากการกระทำ
2. ภูมิคุ้มกันแบบรับมาสามารถป้องกันได้กี่โรค
ตอบ: ภูมิคุ้มกันแบบรับมาสามารถป้องกันได้หลากหลายโรค เช่น หัด หัดเยอรมัน ไอกรน คางทูม คอตีบ โปลิโอ และไวรัสซิกา
3. ใครบ้างที่ควรได้รับภูมิคุ้มกันแบบรับมา
ตอบ: ผู้ที่ควรได้รับภูมิคุ้มกันแบบรับมา ได้แก่ เด็กทารก ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และผู้ที่สัมผัสกับการติดเชื้อที่รุนแรง
4. มีผลข้างเคียงใดๆ จากการรับภูมิคุ้มกันแบบรับมาหรือไม่
ตอบ: ภูมิคุ้มกันแบบรับมาอาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาการแพ้และการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงเหล่านี้ค่อนข้างหายาก
5. ภูมิคุ้มกันแบบรับมาสามารถรักษาได้กี่โรค
ตอบ: ภูมิคุ้มกันแบบรับมามักใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อมากกว่าการรักษา อย่างไรก็ตาม อาจใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อร้ายแรงได้ เช่น บาดทะยักและเรื้อนกวาง
**6. ภูมิคุ้มกันแบบ
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-07 03:57:06 UTC
2024-09-07 03:57:31 UTC
2024-09-05 18:44:03 UTC
2024-09-05 18:44:31 UTC
2024-09-07 13:33:34 UTC
2024-09-07 13:33:53 UTC
2024-09-08 23:38:40 UTC
2024-09-06 06:44:34 UTC
2024-10-19 01:33:05 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:01 UTC
2024-10-19 01:33:00 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC