นับตั้งแต่ปล่อยตัวออกมาเมื่อปี 1987 เพลง "Bad" ของไมเคิล แจ็กสันก็กลายเป็นเพลงอมตะที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เพลงนี้ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยท่วงทำนองอันไพเราะและเนื้อร้องที่กินใจ แต่ยังปูทางไปสู่การปฏิวัติทางดนตรี และยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้
บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยความคลาสสิกของเพลง "Bad" ไขความลับเบื้องหลังการสร้างสรรค์ การประสบความสำเร็จ และอิทธิพลที่เพลงนี้ยังคงมีต่อโลกดนตรี
แรงบันดาลใจเบื้องหลังเพลง "Bad" นั้นมาจากความคับแค้นใจและความโกรธที่ไมเคิล แจ็กสันรู้สึกต่อการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและการวิพากษ์วิจารณ์ที่เขาต้องเผชิญ แจ็กสันรู้สึกว่าถูกโจมตีทั้งในระดับส่วนตัวและอาชีพ และเพลง "Bad" ก็กลายเป็นช่องทางระบายความรู้สึกเหล่านั้นออกมา
ในเนื้อเพลง แจ็กสันร้องถึงการต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม การเหยียดสีผิว และการดูถูกว่า "You're bad, you're bad, you're bad" แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ประกาศความแข็งแกร่ง ความมั่นใจ และความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับผู้ที่ทำให้เขาผิดหวัง
เพลง "Bad" แต่งขึ้นโดยไมเคิล แจ็กสัน และร่วมโปรดิวซ์โดยควินซี โจนส์ โจนส์เป็นผู้อำนวยการสร้างคนสำคัญของแจ็กสันในช่วงเวลานั้น และทั้งสองคนก็ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาเพลงนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
เสียงกีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงนั้นเล่นโดยสตีฟ ลุคาเธอร์ ส่วนไลน์เบสที่โดดเด่นนั้นเล่นโดยนาทาน อีสต์ การจัดเรียงเครื่องสายอันอลังการนั้นทำโดยจอห์น แบร์รี นักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่
เพลง "Bad" ออกจำหน่ายในวันที่ 7 กันยายน 1987 และได้กลายเป็นเพลงฮิตทันที เพลงนี้ขึ้นถึงอันดับ 1 ของชาร์ตเพลง Billboard Hot 100 ของสหรัฐอเมริกา และอยู่ในชาร์ตเป็นเวลา 14 สัปดาห์ เพลงนี้ยังประสบความสำเร็จทั่วโลกและติดอันดับ 1 ในกว่า 30 ประเทศ
เพลง "Bad" ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ด้วย เนื้อเพลงที่กินใจ ท่วงทำนองที่น่าจดจำ และการผลิตที่สมบูรณ์แบบ เพลงนี้ได้รับรางวัลแกรมมี่ 3 รางวัล รวมถึงรางวัลเพลงแห่งปี
มิวสิควิดีโอของเพลง "Bad" กำกับโดยมาร์ติน สกอร์เซซิ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง วิดีโอนี้มีความยาว 18 นาที และเล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ต่อสู้กับกลุ่มอันธพาลในบริเวณสลัม
มิวสิควิดีโอของเพลง "Bad" ถือเป็นการปฏิวัติทางดนตรีในเวลานั้น และกลายมาเป็นหนึ่งในวิดีโอเพลงที่มีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพลงนี้ช่วยบุกเบิกแนวเพลงป๊อปและฮิปฮอป และมีอิทธิพลต่อนักดนตรีมากมายในยุคต่อมา
เพลง "Bad" เป็นเพลงไตเติลของอัลบั้มชุดที่ 7 ของไมเคิล แจ็กสันในชื่อเดียวกัน อัลบั้มนี้มียอดขายมากกว่า 30 ล้านชุดทั่วโลก และได้รับการรับรองแพลตตินัม 8 เท่าโดย Recording Industry Association of America (RIAA)
เพื่อสนับสนุนอัลบั้ม แจ็กสันได้ออกทัวร์คอนเสิร์ต Bad World Tour ซึ่งเป็นหนึ่งในทัวร์คอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดและทำรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทัวร์นี้จัดการแสดงมากกว่า 125 รอบทั่วโลกและมีผู้เข้าชมมากกว่า 4.4 ล้านคน
เพลง "Bad" ไม่เพียงแต่เป็นเพลงฮิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไมเคิล แจ็กสันเท่านั้น แต่ยังเป็นเพลงที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อโลกดนตรีด้วย เพลงนี้ได้ปูทางการเป็นเพลงป๊อปของศิลปินผิวสี และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปินรุ่นหลังมาจนถึงปัจจุบัน
ผลงานชิ้นเอกของแจ็กสันยังคงถูกกล่าวถึงในวัฒนธรรมป๊อป และได้ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และโฆษณาต่างๆ นับไม่ถ้วน เพลงนี้ยังคงเป็นเพลงคลาสสิกที่แฟนเพลงทั่วโลกชื่นชอบและร้องตามกัน
เพลง "Bad" ของไมเคิล แจ็กสันเป็นมากกว่าเพลงฮิตทั่วไป เพลงนี้เป็นเพลงแห่งการต่อสู้ ความแข็งแกร่ง และความมุ่งมั่น และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย ผ่านไป 35 ปี เพลงนี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก และยังคงเป็นหนึ่งในเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยแต่งขึ้นมา
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-09 11:13:39 UTC
2024-07-31 04:16:51 UTC
2024-07-31 04:17:01 UTC
2024-09-23 12:03:00 UTC
2024-09-28 05:07:21 UTC
2024-10-01 22:05:52 UTC
2024-10-04 12:13:48 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC