อันติไวรัส: อาวุธลับในการปกป้องระบบจากภัยคุกคามออนไลน์
ในยุคดิจิทัลที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็กลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โปรแกรมแอนติไวรัสจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปกป้องระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลสำคัญของเราจากมัลแวร์อันตราย
โปรแกรมแอนติไวรัสคืออะไร
โปรแกรมแอนติไวรัสคือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อค้นหา ตรวจจับ และกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์และมัลแวร์อื่นๆ โดยปกติแล้วโปรแกรมแอนติไวรัสจะทำงานแบบเรียลไทม์ โดยสแกนไฟล์และอีเมลที่เข้ามาเพื่อหาภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
เหตุใดโปรแกรมแอนติไวรัสจึงมีความสำคัญ
รายงานจาก Norton Cyber Security Insights พบว่าในปี 2021 มีภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นมากกว่า 1.5 พันล้านครั้งทั่วโลก โดยมีการโจมตีทุกๆ 4 วินาที ภัยคุกคามเหล่านี้รวมถึง:
-
ไวรัส: โค้ดที่เป็นอันตรายที่สามารถแพร่กระจายและติดตั้งตัวเองบนระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต
-
มัลแวร์: ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำความเสียหายหรือขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์
-
สปายแวร์: ซอฟต์แวร์ที่ติดตามและบันทึกกิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้
-
แอปแรนซัมแวร์: มัลแวร์ที่เข้ารหัสไฟล์บนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อและเรียกค่าไถ่เพื่อถอดรหัส
ประโยชน์ของโปรแกรมแอนติไวรัส
การติดตั้งโปรแกรมแอนติไวรัสที่เชื่อถือได้สามารถมอบประโยชน์มากมาย ได้แก่:
-
การป้องกันไวรัสและมัลแวร์: โปรแกรมแอนติไวรัสจะสแกนไฟล์และอีเมลที่เข้ามาเพื่อหาภัยคุกคามและบล็อกหรือลบภัยคุกคามเหล่านั้น
-
การอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสอัตโนมัติ: โปรแกรมแอนติไวรัสที่ดีจะอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามล่าสุด
-
การสแกนอีเมล: โปรแกรมแอนติไวรัสจะสแกนอีเมลที่เข้ามาเพื่อหาสิ่งที่แนบมากับไวรัสหรือมัลแวร์อื่นๆ
-
การป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิง: โปรแกรมแอนติไวรัสบางตัวสามารถตรวจจับและบล็อกอีเมลฟิชชิงที่พยายามขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้
-
การป้องกันการแฮ็ก: โปรแกรมแอนติไวรัสบางตัวมีคุณสมบัติการป้องกันการแฮ็กซึ่งสามารถบล็อกการโจมตีของแฮ็กเกอร์และป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตไปยังระบบคอมพิวเตอร์
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของโปรแกรมแอนติไวรัสฟรีและเสียเงิน
ทั้งโปรแกรมแอนติไวรัสฟรีและเสียเงินมีข้อดีและข้อเสียดังนี้:
โปรแกรมแอนติไวรัสฟรี
- ข้อดี:
- ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน
- ให้การป้องกันขั้นพื้นฐานจากไวรัสและมัลแวร์
- ข้อเสีย:
- อาจไม่มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การป้องกันการแฮ็กหรือการป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิง
- อาจไม่สามารถตรวจจับภัยคุกคามล่าสุดได้
- อาจแสดงโฆษณา
โปรแกรมแอนติไวรัสเสียเงิน
- ข้อดี:
- ให้การป้องกันที่ครอบคลุมจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่หลากหลาย
- มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การป้องกันการแฮ็ก การป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิง และการสำรองข้อมูลแบบคลาวด์
- ให้การสนับสนุนทางเทคนิค
- ข้อเสีย:
- มีค่าใช้จ่าย
- อาจซับซ้อนกว่าโปรแกรมแอนติไวรัสฟรีในการติดตั้งและใช้งาน
กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันไวรัส
นอกเหนือจากการติดตั้งโปรแกรมแอนติไวรัสแล้ว ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ ที่ผู้ใช้สามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงของการติดไวรัสและมัลแวร์ ได้แก่:
-
อัปเดตซอฟต์แวร์: รักษาซอฟต์แวร์ทั้งหมด รวมถึงระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์อื่นๆ ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอเพราะการอัปเดตมักรวมถึงแพตช์ความปลอดภัยที่แก้ไขช่องโหว่ที่แฮ็กเกอร์อาจใช้ประโยชน์ได้
-
ใช้รหัสผ่านที่รัดกุม: ใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำกันสำหรับบัญชีออนไลน์ทั้งหมด หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อหรือวันเกิดของผู้ใช้ ในรหัสผ่าน
-
ระมัดระวังในการเปิดสิ่งที่แนบมากับอีเมล: อย่าเปิดสิ่งที่แนบมากับอีเมลจากผู้ส่งที่ไม่รู้จักหรือดูน่าสงสัย โปรแกรมแอนติไวรัสจะสแกนสิ่งที่แนบมากับอีเมลที่เข้ามา แต่ผู้ใช้ควรใช้ความระมัดระวังเช่นเดียวกัน
-
หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ: ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์และเนื้อหาอื่นๆ จากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ที่แชร์ไฟล์และทอร์เรนต์
-
สำรองข้อมูล: สำรองข้อมูลสำคัญเป็นประจำในอุปกรณ์ที่แยกจากกัน เช่น ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกหรือบริการสำรองข้อมูลแบบคลาวด์ ในกรณีที่เกิดการสูญเสียหรือความเสียหายของข้อมูล
ตารางที่ 1: เปรียบเทียบโปรแกรมแอนติไวรัสชั้นนำ
โปรแกรมแอนติไวรัส |
ข้อดี |
ข้อเสีย |
Bitdefender Antivirus Plus |
การป้องกันที่ครอบคลุม |
ราคาแพง |
Norton 360 Deluxe |
คุณสมบัติที่หลากหลาย |
อาจทำให้เครื่องช้าลง |
Kaspersky Internet Security |
การตรวจจับมัลแวร์ที่แม่นยำ |
อาจทำให้เครื่องช้าลง |
McAfee Total Protection |
การป้องกันแรนซัมแวร์ขั้นสูง |
อาจซับซ้อนในการใช้ |
Avast Free Antivirus |
ฟรีและใช้งานง่าย |
การป้องกันขั้นพื้นฐาน |
ตารางที่ 2: สถิติการโจมตีทางไซเบอร์ที่สำคัญ
ประเภทการโจมตี |
จำนวนการโจมตีในปี 2021 |
ภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยรวม |
มากกว่า 1.5 พันล้าน |
การโจมตีแบบฟิชชิง |
400 ล้าน |
การโจมตีแบบแรนซัมแวร์ |
80 ล้าน |
การแฮ็ก |
60 ล้าน |
ตารางที่ 3: รายชื่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วไป
ประเภท |
คำอธิบาย |
ไวรัส |
โค้ดที่เป็นอันตรายที่สามารถแพร่กระจายและติดตั้งตัวเองบนระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต |
มัลแวร์ |
ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำความเสียหายหรือขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ |
|
|