Position:home  

วัดบวรนิเวศวิหาร: อัญมณีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

พระอารามหลวงชั้นเอกที่สำคัญที่สุด

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นหนึ่งในสามพระอารามหลวงชั้นเอกของประเทศไทย และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวไทย

วัดแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2325 ด้วยพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดบวรนิเวศวิหารจึงเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในสมัยรัตนโกสินทร์

ความงดงามทางสถาปัตยกรรม

วัดบวรนิเวศวิหาร

วัดบวรนิเวศวิหาร: อัญมณีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นวัดที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ด้วยการผสมผสานศิลปะไทยและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุโบสถที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบโรมัน

นอกจากนี้ วัดบวรนิเวศวิหารยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงกลมที่สูงถึง 80 เมตร ซึ่งถือเป็นเจดีย์ที่สูงเป็นอันดับ 2 ของกรุงเทพมหานคร รองจากพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม

ความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนามาช้านาน โดยเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)

พระพุทธโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์

นอกจากนี้ วัดบวรนิเวศวิหารยังเป็นที่จัดงานประเพณีสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของไทยหลายงาน เช่น งานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ งานทอดผ้าป่าสามัคคี และงานสวดมนต์ข้ามปี เป็นต้น

การบูรณะและพัฒนา

วัดบวรนิเวศวิหารได้ผ่านการบูรณะและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ได้มีการบูรณะอุโบสถและเปลี่ยนหลังคาจากกระเบื้องดินเผาเป็นกระเบื้องเคลือบสี

ในปัจจุบัน วัดบวรนิเวศวิหารเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร และเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญของประเทศไทย

พระอารามหลวงชั้นเอกที่สำคัญที่สุด

พระพุทธโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์

พระพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างขึ้นในสมัยลพบุรี ซึ่งตามตำนานเล่าว่าได้อัญเชิญมาจากเมืองโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อครั้งกบฏเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (บุญมา) ในสมัยรัชกาลที่ 3

พระพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวไทยเลื่อมใสศรัทธากันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการขอพรให้มีโชคลาภและความสำเร็จต่างๆ

สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นวัดที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุโบสถที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบโรมัน

อุโบสถ

อุโบสถของวัดบวรนิเวศวิหารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะเป็นทรงกลมกลม มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 19 เมตร หลังคาเป็นโดมกลมสูง 30 เมตร ยอดโดมประดับด้วยพระเจดีย์ทรงระฆัง

ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธชินราชจำลอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองคำ หน้าตักกว้าง 3 ศอก 9 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติและพระมาลัย

พระวิหาร

พระวิหารของวัดบวรนิเวศวิหารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 21 เมตร ยาว 48 เมตร หลังคาเป็นทรงจั่วซ้อน 3 ชั้น ยอดหลังคาประดับด้วยพระเจดีย์ทรงปรางค์

ภายในพระวิหารประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 4 ศอก 9 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์อื่นๆ อีกหลายองค์ รวมทั้งพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่จำลองมาจากพระพุทธไสยาสน์ที่วัดพระธาตุพนม

เจดีย์

เจดีย์ของวัดบวรนิเวศวิหารเป็นเจดีย์ทรงกลม ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม 12 มีความสูง 80 เมตร เจดีย์องค์นี้ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบลังกา โดยมีลักษณะคล้ายกับเจดีย์พระศรีรัตนเจดีย์ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ความสำคัญทางศาสนาและสังคม

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นวัดที่มีความสำคัญทางศาสนาและสังคมอย่างมากมาช้านาน โดยเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการศึกษาของไทย

มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของประเทศไทย

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2429 มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อผลิตพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถทางด้านพระพุทธศาสนาและการศึกษา

ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้ได้พัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งชาติ และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการศึกษาพระพุทธศาสนา

การศึกษาพระปริยัติธรรม

วัดบวรนิเวศวิหารเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระปริยัติธรรมที่สำคัญของไทยมายาวนาน โดยมีการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมตั้งแต่ระดับสามเณรจนถึงระดับปริญญาเอก

ปัจจุบัน วัดบวรนิเวศวิหารมีสำนักเรียนพระปริยัติธรรมประจำวัด และยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมอีกด้วย

งานสังคมสงเคราะห์

วัดบวรนิเวศวิหารได้ดำเนินงานสังคมสงเคราะห์มาอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้งโรงพยาบาลสงฆ์ โรงเรียนสำหรับเด็กกำพร้า และมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ เป็นต้น

นอกจากนี้ วัดบวรนิเวศวิหารยังเป็นที่ตั้งของมูลนิธิสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ให้การสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

การบูรณะและพัฒนา

วัดบวรนิเวศวิหารได้ผ่านการบูรณะและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน

การบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการบูรณะวัดบวรนิเวศวิหารครั้งใหญ่ โดยได้บู

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss