ปกป้องผิวจากแสงแดดให้ไร้กังวลด้วยกันแดดทาหน้า

แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวของเราเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ โดยจากผลการสำรวจของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา พบว่าแสงแดดเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนังถึง 80% และการใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของครีมกันแดดทาหน้า

ครีมกันแดดทาหน้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

• Physical Sunscreen: ครีมกันแดดชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสียูวี โดยการสะท้อนและกระจายรังสีออกไป มีส่วนประกอบหลักเป็นแร่ธาตุอย่างไทเทเนียมไดออกไซด์และสังกะสีออกไซด์ เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและระคายเคืองง่าย

• Chemical Sunscreen: ครีมกันแดดชนิดนี้จะทำหน้าที่ดูดซับรังสียูวีเอาไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานอื่น โดยมีส่วนประกอบหลักเป็นสารเคมีสังเคราะห์ เช่น อะโวเบนโซน, ออกติซาเลต และโฮโมซาเลต เหมาะกับผิวทุกประเภท แต่บางครั้งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

  

วิธีเลือกครีมกันแดดทาหน้า

ในการเลือกครีมกันแดดทาหน้าให้เหมาะกับผิว ควรคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้

• ค่า SPF (Sun Protection Factor): บ่งบอกระดับการปกป้องผิวจากรังสียูวีบีซึ่งทำให้ผิวไหม้ แนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
• ค่า PA (Protection Grade of UVA): บ่งบอกระดับการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอซึ่งทำให้ผิวคล้ำเสียและเกิดริ้วรอย แนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า PA+++ ขึ้นไป
• เนื้อสัมผัส: เลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง เช่น เนื้อบางเบาสำหรับผิวมันหรือเนื้อเข้มข้นสำหรับผิวแห้ง
• ส่วนผสม: ตรวจสอบส่วนผสมของครีมกันแดดว่ามีสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้หรือไม่ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

วิธีทาครีมกันแดดทาหน้าอย่างถูกต้อง

เพื่อให้ครีมกันแดด发挥ประสิทธิภาพสูงสุด ควรทาครีมกันแดดอย่างถูกต้อง ดังนี้

• ทาก่อนออกแดด 15-20 นาที: เพื่อให้ครีมกันแดดซึมซาบลงสู่ผิวได้ดี
• ทาทั่วใบหน้าและลำคอ: อย่าลืมทาครีมกันแดดบริเวณริมฝีปากและหลังหูด้วย
• ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง: หรือบ่อยกว่านั้นหากต้องเผชิญแดดจัดหรือว่ายน้ำ
• ทาแม้ในวันที่อากาศครึ้ม: แม้ว่าแสงแดดจะไม่แรง แต่รังสียูวีก็ยังสามารถทะลุกระจกและเมฆได้

ผลกระทบของแสงแดดต่อผิว

แสงแดดส่งผลกระทบต่อผิวของเราในหลายๆ ด้าน ได้แก่

• ผิวหมองคล้ำ: รังสียูวีทำให้เกิดการผลิตเมลานินในผิวมากขึ้น ซึ่งทำให้ผิวคล้ำเสีย
• เกิดริ้วรอย: รังสียูวีทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวกระชับและเต่งตึง
• จุดด่างดำ: รังสียูวีทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดจุดด่างดำและฝ้า
• มะเร็งผิวหนัง: รังสียูวีเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของมะเร็งผิวหนังชนิดต่างๆ เช่น มะเร็งผิวหนังเซลเม็ดสี, มะเร็งผิวหนังเซลอะหม่า และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ตารางเปรียบเทียบประเภทครีมกันแดด

ตารางค่า SPF ที่แนะนำ

ตารางส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงในครีมกันแดด

กลยุทธ์ในการปกป้องผิวจากแสงแดด

นอกจากการใช้ครีมกันแดดแล้ว ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ ได้แก่

• สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด: เลือกสวมเสื้อผ้าที่ทอแน่นและมีสีเข้ม ซึ่งสามารถช่วยป้องกันรังสียูวีได้
• สวมหมวกปีกกว้าง: หมวกปีกกว้างจะช่วยปกป้องใบหน้า ลำคอ และหูจากแสงแดด
• ใช้ร่ม: เมื่อต้องเดินกลางแดดเป็นเวลานาน แนะนำให้ใช้ร่มเพื่อเพิ่มการปกป้องผิว
• หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลากลางวัน: แสงแดดจะแรงที่สุดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลานี้หากเป็นไปได้
• รับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: สารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวี

เรื่องราวฮาๆ และบทเรียนที่ได้

เรื่องที่ 1:

คุณแม่ลูกสองที่ลืมทาครีมกันแดด

คุณแม่ลูกสองท่านหนึ่งลืมทาครีมกันแดดก่อนพาลูกๆ ไปสวนสนุก ผลลัพธ์คือใบหน้าของเธอไหม้แดดอย่างหนักจนแทบจำไม่ได้ โชคดีที่เธอมีสติและพาลูกๆ กลับบ้านก่อนที่อาการจะแย่ลงมากไปกว่านี้ บทเรียนที่ได้คือ: อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกแดด

เรื่องที่ 2:

ชายหนุ่มที่โดนแดดเผาทั้งตัวเพราะคิดว่าตนเองแข็งแกร่ง

ชายหนุ่มคนหนึ่งมั่นใจในผิวสีแทนธรรมชาติของตนเองมากจนลืมทาครีมกันแดด วันหนึ่งเขาไปนอนอาบแดดริมหาดเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ผลลัพธ์คือทั้งตัวของเขาไหม้แดดอย่างสาหัสจนต้องเข้าโรงพยาบาล บทเรียนที่ได้คือ: แม้ว่าจะมีผิวสีแทนธรรมชาติ แต่ก็ยังจำเป็นต้องทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี

เรื่องที่ 3:

หญิงสาวที่กลัวครีมกันแดดเพราะคิดว่าจะทำให้เป็นสิว

หญิงสาวคนหนึ่งหลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดเป็นเวลานานเพราะกังวลว่าจะทำให้เกิดสิว แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้เมื่อผิวของเธอเริ่มมีริ้วรอยและจุดด่างดำ ช่างแต่งหน้าแนะนำให้เธอใช้ครีมกันแดดสูตร non-comedogenic ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดสิวได้ ผลลัพธ์คือผิวของเธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ช