มะเขือเครือ: สรรพคุณทางยาและวิธีปลูกที่คุณควรรู้
มะเขือเครือ (Solanum torvum) เป็นพืชผักสวนครัวที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะเป็นเถาเลื้อย มีดอกสีขาวและผลสีเขียวคล้ายมะเขือเทศ ผลของมะเขือเครือมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านการบำรุงร่างกายและรักษาโรคต่างๆ
สรรพคุณทางยาของมะเขือเครือ
-
บำรุงร่างกาย: มะเขือเครืออุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี เหล็ก และฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยบำรุงและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
-
รักษาโรคเบาหวาน: มะเขือเครือมีสารที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยรักษาและป้องกันโรคเบาหวานได้
-
รักษาโรคความดันโลหิตสูง: มะเขือเครือมีสารที่ช่วยขยายหลอดเลือด จึงช่วยลดความดันโลหิตได้
-
ต้านการอักเสบ: มะเขือเครือมีสารต้านการอักเสบ ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย เช่น โรคข้ออักเสบ โรคหอบหืด และโรคภูมิแพ้
-
ต้านมะเร็ง: มีการศึกษาพบว่ามะเขือเครือมีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
-
รักษาแผลและผิวหนังอักเสบ: ใบมะเขือเครือนำมา捣แล้วนำมาพอกแผล ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบได้
วิธีปลูกมะเขือเครือ
การปลูกมะเขือเครือนั้นง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ทั้งในแปลงเกษตรและในกระถาง
วัสดุที่ใช้:
- ต้นกล้าหรือเมล็ดมะเขือเครือ
- ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- ดินร่วนซุย
ขั้นตอนการปลูก:
-
เตรียมดิน: ขุดดินลึกประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
-
ปลูกต้นกล้าหรือหว่านเมล็ด: ถ้าปลูกต้นกล้า ให้ขุดหลุมลึกประมาณ 15 เซนติเมตร แล้ววางต้นกล้าลงไปในหลุม ถ้าหว่านเมล็ด ให้หว่านลงในหลุมที่เตรียมไว้ แล้วกลบดินบางๆ
-
รดน้ำ: รดน้ำให้ชุ่มหลังจากปลูกเสร็จ
-
ดูแลรักษา: รดน้ำให้สม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยทุกๆ 1-2 เดือน และกำจัดวัชพืชออกเป็นประจำ
มะเขือเครือ: ผักคุณประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม
มะเขือเครืออุดมไปด้วยสารอาหารและมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงร่างกาย รักษาโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคผิวหนังต่างๆ จึงเป็นผักคุณประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม
ตารางที่ 1: ปริมาณสารอาหารในมะเขือเครือ 100 กรัม
สารอาหาร |
ปริมาณ |
พลังงาน |
25 กิโลแคลอรี |
คาร์โบไฮเดรต |
4.7 กรัม |
โปรตีน |
1.2 กรัม |
ไขมัน |
0.2 กรัม |
วิตามินซี |
12 มิลลิกรัม |
วิตามินเอ |
330 ไมโครกรัม |
เหล็ก |
1.2 มิลลิกรัม |
แคลเซียม |
80 มิลลิกรัม |
ตารางที่ 2: สรรพคุณทางยาของมะเขือเครือ
สรรพคุณ |
อาการหรือโรคที่รักษา |
บำรุงร่างกาย |
ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ |
รักษาโรคเบาหวาน |
น้ำตาลในเลือดสูง |
รักษาโรคความดันโลหิตสูง |
ความดันโลหิตสูง |
ต้านการอักเสบ |
โรคข้ออักเสบ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ |
ต้านมะเร็ง |
มะเร็งบางชนิด |
รักษาแผลและผิวหนังอักเสบ |
แผลสด แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก |
ตารางที่ 3: เคล็ดลับการปลูกมะเขือเครือให้ได้ผลผลิตดี
เคล็ดลับ |
วิธีการ |
เลือกดินที่ร่วนซุย |
ดินร่วนซุยช่วยระบายน้ำได้ดี ไม่อุ้มน้ำ |
ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก |
ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน |
รดน้ำให้สม่ำเสมอ |
รดน้ำให้ชุ่มโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน |
กำจัดวัชพืชเป็นประจำ |
วัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากมะเขือเครือ |
ทิปส์และเทคนิคในการใช้มะเขือเครือ
-
การใช้ผลมะเขือเครือ: ผลของมะเขือเครือสามารถรับประทานสดได้ หรือจะนำไปต้มจืด ผัด หรือแกงก็ได้
-
การใช้ใบมะเขือเครือ: ใบมะเขือเครือนำมา搗แล้วนำไปพอกแผล ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบได้
-
การต้มน้ำดื่มจากมะเขือเครือ: นำผลมะเขือเครือมาต้มกับน้ำ แล้วดื่มเป็นประจำ ช่วยบำรุงร่างกายและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
วิธีทำมะเขือเครือต้มจืด
ส่วนผสม:
- ผลมะเขือเครือ 3-4 ลูก
- เนื้อหมูสับ 1/2 ถ้วย
- ต้นหอม ผักชี สำหรับโรยหน้า
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- เกลือ ปรุงรสตามชอบ
วิธีทำ:
- ล้างผลมะเขือเครือ แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ
- ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า แล้วนำผลมะเขือเครือลงไปต้ม
- เมื่อน้ำเดือด ใส่เนื้อหมูสับลงไป
- ปรุงรสด้วยเกลือตามชอบ
- เคี่ยวจนผลมะเขือเครือสุก นุ่ม ตักใส่ชาม โรยด้วยต้นหอมและผักชี
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรรับประทานมะเขือเครือในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานมะเขือเครือ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานมะเขือเครือ
คำถามที่พบบ่อย
-
มะเขือเครือกับมะเขือเปราะต่างกันอย่างไร
ตอบ: มะเขือเครือเป็นเถาเลื้อย มีดอกสีขาว ส่วนมะเขือเปราะเป็นไม้พุ่ม มีดอกสีเหลือง
-
มะเขือเครือมีฤทธิ์เย็นหรือร้อน
ตอบ: มะเขือเครือมีฤทธิ์เย็น
-
มะเขือเครือใช้รักษาโรคอะไรได้บ้าง
ตอบ: มะเขือเครือใช้รักษาโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคผิวหนังต่างๆ
-
มะเขือเครือมีพิษหรือไม่
ตอบ: ผลและใบมะเขือ